สเวน

สเวน โกรัน อีริคส์สัน เผยเบื้องหลังโดนอดีตเจ้าของทีมแมนฯ ซิตี้ ปลดในปี 2008 หลังแพ้ยับในพรีเมียร์ลีก แฉมีนักเตะสไตรก์

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เดลี เมล์ สื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2007-2008 ที่เผยถึงเบื้องหลังการโดนปลดออกจากตำแหน่ง ผ่านทาง ฟีเวอร์ พิตช์ (Fever Pitch) สารคดีตัวใหม่บน พาราเมาต์ พลัส (Paramount+)

สเวน

กุนซือชาวสวีเดน เล่าว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2008 บรรดานักเตะแมนฯ ซิตี้ นำโดย ริชาร์ด ดันน์ กัปตันทีมชุดนั้น ได้เข้ามาหารือกับเขาและแจ้งว่าผู้เล่นในทีมต้องการแสดงออกเพื่อประท้วง ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสรชาวไทยในเวลานั้น เนื่องจากปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่ดีภายในทีม

จากนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็บุกไปโดน มิดเดิลสโบรห์ ถล่มถึง 8-1 กลายเป็นความพ่ายแพ้ที่ขาดลอยที่สุดในชีวิตการเป็นกุนซือของ โกรัน อีริคส์สัน ก่อนที่ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่พอใจผลงานและตัดสินใจปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากพาสตาฟฟ์โค้ชไปท่องราตรีที่ประเทศไทย

อดีตกุนซือแมนฯ ซิตี้ เล่าว่า “2 วันก่อนเกมนั้น ดันน์ กัปตันทีม เข้ามาในห้องทำงานของผม และบอกว่าเราจะไม่ลงเล่นเกมนั้น เพื่อเป็นการประท้วงต่อต้าน มิสเตอร์ชินวัตร แต่ผมก็ตอบไปว่าคุณรู้ว่าเราต้องไปและเราต้องลงเล่น แต่เราก็เล่นกันได้แย่มาก เพราะไม่มีใครอยากลงเล่นเกมนั้น เราแพ้ 1-8 นั่นเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ”

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยและเจ้าของทีมแมนฯ ซิตี้ หลังจบเกมนั้น สเวน ก็บอกว่า “ผมได้ยินมาว่ามันเป็นเพราะสกอร์ 8-1 และนั่นคือฟางเส้นสุดท้ายของผม”

“หลังจบฤดูกาล เขาตัดสินใจว่าเราควรไปประเทศไทย แม้ว่าผู้เล่นทุกคนจะประท้วง ซึ่งในช่วงเย็นวันสุดท้ายของการทัวร์ครั้งนั้น มิสเตอร์ชินวัตร ได้ชวนสตาฟฟ์ทั้งหมดไปที่คลับคาราโอเกะ”

“จากนั้นในช่วงดึกๆ เขาก็หยิบไมโครโฟนและเดินไปที่โต๊ะของสตาฟฟ์โค้ช และเริ่มเซ็นหนังสือว่าผมควรอยู่หรือควรไป ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ผมสงสัยว่าผมฝันไปหรือเปล่า”

“วันรุ่งขึ้น เขาก็ต้องการรับประทานอาหารเช้ากับผมก่อนที่เราจะเดินทางกลับ เขาบอกผมว่าผมจะถูกไล่ออก ผมถามว่าทำไม และเขาก็บอกว่าผมไม่รู้”

“ผมถามเขาถึง 3 ครั้งแล้ว เขาก็ได้แต่บอกว่าผมไม่รู้ เขาบอกว่ามันมาจากความรู้สึกของเขา นั่นเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมถูกไล่ออกในการทำงานที่อังกฤษ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด”

ที่มา

<strong>thairath.co.th</strong><a href=”https://www.thairath.co.th/”></a>

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ wardellinger.com